จะไม่มีใครมาสัมผัสอัลกุรอานได้ นอกจาก
จะไม่มีใครมาสัมผัสอัลกุรอานได้ นอกจาก
“และจะไม่มีใครมาสัมผัสอัลกุรอานได้ นอกจากพวกที่มีความสะอาดเท่านั้น” (อัลวากิอะตฺ 79)
จาก อลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ปรากฏว่า ท่าน นบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เคยอ่านอัลกุรอานให้พวกเรา(ฟัง)โดย ที่ท่านไม่มีสภาวะมลทิน บันทึกโดย อิหม่าม อะหฺมัด และ ผู้บันทึกทั้งห้า อะบูดาวูด ติรมีซีย์ นาซาอีย์ อิบนุมาญะฮฺ แต่ตัวบทนี้เป็นของ อิหม่าม ติรมิซี ซึ่งติรมิซีเองถือว่าหะดีษนี้ หะซัน ส่วน อิบนุ หิบบานถือว่าศอฮิหฺ
ห้ามอ่าน อัลกุรอาน ขณะที่มีมลทิน หรือ หะดัษใหญ่ มีอีกหะดัษหนึ่ง ซึ่ง อบู ยะอฺลานำเสนอ จาก อลี เช่นกันว่า
رايت رسول الله على و سلم تو ضاء ثم قر اء شىءا من القران ثم قا
..จนจบ
“ฉัน อลีเคยเห็นท่าน รอซูลุลลอฮ์ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ทำน้ำละหมาด และ อ่านส่วนหนึ่งจากอัลกุรอาน หลังจากนั้นท่านกล่าวว่า นี่สำหรับผู้ที่ไม่มีมลทิน สำหรับผู้ที่มีมลทินนั้นทำไม่ได้และทำไม่ได้ แม้เพียงอายะฮฺเดียว”
ซึ่งหะดีษ ส่วนนี้มีสายรายงานที่หนักแน่น ชัดเจนถึงการห้ามอ่านอัลกุรอานขณะที่มีมลทินโดยถือเอา การกระทำของท่าน รอซูลศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เป็นหลักแต่ในทัศนะของนักนิติศาสตร์อิสลาม มีความเห็นต่างกัน คือ สำนักความคิด มาลิกี ยกเว้น อายะฮฺที่ง่ายๆ เช่นอายะฮฺกุดฺซี สูเราะฮฺอัลอิคลาศและสูเราะฮฺมะอูซะตัย ส่วน อะหฺมัด มี ทัศนะว่า ผ่อนผันให้เมื่ออ่านอายะฮฺเป็นตัวอย่าง แต่ อบูหะนีฟะฮฺถือว่า อนุญาตอ่านเป็นบางส่วนของอายะฮฺ กล่าวคือ อ่านไม่ครบ อายะฮฺ
สำหรับสำนักความคิด ชาฟีอี อนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่าต้องตั้งใจว่าเป็นเรื่องซิกิร มิใช่เรื่องอ่าน กุรอานโดยตรง กรณีกระทบถือว่าห้าม แม้มีของกั้นก็ตามตามทัศนะของอุละมาอฺส่วนใหญ่ ความจริงอิหม่าม อะหฺมัดอยู่ในกลุ่มผู้บันทึกทั้งห้าอยู่แล้ว กรณีนี้จึงถือว่า การตัครีจผิดพลาดกล่าวคือควรใช้ว่า บันทึกโดยผู้บันทึกทั้งสี่ หรือบันทึกโดยอิหม่ามอะหฺมัดและ ผู้บันทึกทั้งสี่ อบูดาวูด ติรมีซีย์ นาซาอีย์ อิบนุมาญะฮฺ
จาก อลี เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ เล่าว่า ปรากฏว่า ท่าน นบี ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เคยอ่านอัลกุรอานให้พวกเรา(ฟัง)โดย ที่ท่านไม่มีสภาวะมลทิน บันทึกโดย อิหม่าม อะหฺมัด และ ผู้บันทึกทั้งห้า อะบูดาวูด ติรมีซีย์ นาซาอีย์ อิบนุมาญะฮฺ แต่ตัวบทนี้เป็นของ อิหม่าม ติรมิซี ซึ่งติรมิซีเองถือว่าหะดีษนี้ หะซัน ส่วน อิบนุ หิบบานถือว่าศอฮิหฺ
ห้ามอ่าน อัลกุรอาน ขณะที่มีมลทิน หรือ หะดัษใหญ่ มีอีกหะดัษหนึ่ง ซึ่ง อบู ยะอฺลานำเสนอ จาก อลี เช่นกันว่า
رايت رسول الله على و سلم تو ضاء ثم قر اء شىءا من القران ثم قا
..จนจบ
“ฉัน อลีเคยเห็นท่าน รอซูลุลลอฮ์ศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ทำน้ำละหมาด และ อ่านส่วนหนึ่งจากอัลกุรอาน หลังจากนั้นท่านกล่าวว่า นี่สำหรับผู้ที่ไม่มีมลทิน สำหรับผู้ที่มีมลทินนั้นทำไม่ได้และทำไม่ได้ แม้เพียงอายะฮฺเดียว”
ซึ่งหะดีษ ส่วนนี้มีสายรายงานที่หนักแน่น ชัดเจนถึงการห้ามอ่านอัลกุรอานขณะที่มีมลทินโดยถือเอา การกระทำของท่าน รอซูลศ็อลล็อลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม เป็นหลักแต่ในทัศนะของนักนิติศาสตร์อิสลาม มีความเห็นต่างกัน คือ สำนักความคิด มาลิกี ยกเว้น อายะฮฺที่ง่ายๆ เช่นอายะฮฺกุดฺซี สูเราะฮฺอัลอิคลาศและสูเราะฮฺมะอูซะตัย ส่วน อะหฺมัด มี ทัศนะว่า ผ่อนผันให้เมื่ออ่านอายะฮฺเป็นตัวอย่าง แต่ อบูหะนีฟะฮฺถือว่า อนุญาตอ่านเป็นบางส่วนของอายะฮฺ กล่าวคือ อ่านไม่ครบ อายะฮฺ
สำหรับสำนักความคิด ชาฟีอี อนุญาตโดยมีเงื่อนไขว่าต้องตั้งใจว่าเป็นเรื่องซิกิร มิใช่เรื่องอ่าน กุรอานโดยตรง กรณีกระทบถือว่าห้าม แม้มีของกั้นก็ตามตามทัศนะของอุละมาอฺส่วนใหญ่ ความจริงอิหม่าม อะหฺมัดอยู่ในกลุ่มผู้บันทึกทั้งห้าอยู่แล้ว กรณีนี้จึงถือว่า การตัครีจผิดพลาดกล่าวคือควรใช้ว่า บันทึกโดยผู้บันทึกทั้งสี่ หรือบันทึกโดยอิหม่ามอะหฺมัดและ ผู้บันทึกทั้งสี่ อบูดาวูด ติรมีซีย์ นาซาอีย์ อิบนุมาญะฮฺ
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|