เว็บบอร์ด
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

ความหมาย 'บัรซันญี' ฉบับแปลไทย

Go down

ความหมาย 'บัรซันญี' ฉบับแปลไทย Empty ความหมาย 'บัรซันญี' ฉบับแปลไทย

ตั้งหัวข้อ by Profile Mon Jan 05, 2015 12:36 am

     ความหมาย 'บัรซันญี' ฉบับแปลไทย By: musalmarn Date: มี.ค. 28, 2008, 03:08 AM (05.01.2015)
بسم الله الرحمن الرحيم

บทนำ
บัรซัลญี เป็นร้อยแก้วและร้อยกรองที่ได้เล่าเรื่องราวชีวประวัติของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) โดยต้นฉบับเดิมเป็นภาษาอาหรับและมีการแปลออกไปเป็นภาษาต่างๆ เช่น ภาษาไทย ภาษามลายู เพื่อให้ผู้อ่านหรือผู้ฟังศึกษาและเข้าใจถึงเรื่องราวดังกล่าว เหตุที่เราต้องศึกษาชีวประวัติของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) นั้น ก็เพราะว่า :

لقد آان لكم فى رسول الله اسوةحسنة
“ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ แท้จริงแล้วสำหรับมูฮัมหมัดนั้น คือ แบบอย่างที่ดีงาม”
(อัลกุรอาน)

وأنك لعلى خلق عظيم
“แท้จริงแล้ว โอ้เจ้ามูฮัมหมัด เป็นผู้ที่มีกริยา มารยาทที่สูงส่ง”
(อัลกุรอาน)

สำหรับมุสลีมีนและมุสลีมะฮ์ที่ต้องการศึกษาเรื่องราวของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) สามารถศึกษาได้จากบัรซัลญีนี้ และท่านจะได้รับรู้ถึงความไพเราะ และจะมีความรู้สึกรักและคิดถึงต่อท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) หวังว่าอัลลอฮ์(ซ.บ.)จะประทานประโยชน์แก่บรรดาผู้ที่ศึกษาชีวประวัติของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) โดยผ่านบัรซัลญีนี้ และทรงประทานเตาฟิก ฮีดายะห์ นิอฺมัต แก่ผู้อ่านและผู้ฟังที่ตั้งเจตนาที่ดีและด้วยใจบริสุทธิ์

ข้อควรปฏิบัติในการเข้าร่วมมัจญลิสการอ่านบัรซัลญี
€ ผู้อ่านและผู้ฟังควรตั้งเจตนาเพื่อสรรเสริญท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ)
€ ผู้อ่านและผู้ฟังควรนั่งอย่างสำรวม เสมือนว่ากำลังนั่งอยู่ตรงหน้าท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ)
€ ในขณะที่มีการอ่านบัรซัลญีอยู่นั้น ไม่ควรส่งเสียงดังหรือพูดคุยกัน
€ ควรจัดให้มีน้ำหอมในมัจญลิสอ่านบัรซัลญีด้วย
€ สถานที่อ่านบัรซัลญีไม่ควรมีรูปภาพคน สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เพื่อให้มลาอีกัตเราะห์มัต สามารถเข้ามาในมัจญลิสได้
€ ให้ลุกขึ้นยืนในช่วงทีมี่การซอลาวาตนบี
€ จงระมัดระวังในการซอลาวาตนบี ไม่ออกเสียงยาวที่ตัวมีม ( م) ตรงคำว่า محمد และตัวลาม ( ل) ตรงคำว่า عليه และตัวซีน ( س) ตรงคำ
ว่า وسلم

1. Al jannatu (ألجنة ونعيمها)
1. สวรรค์และความสุขในสวรรค์ เป็นโชควาสนาแด่ผู้กล้าซอลาวาด และสลาม และถวายศิริมงคล แด่ท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) (ด้วยพระนามของอัลลอฮผู้ทรงกรุณาปราณีเสมอ)
2. ข้าพระองค์ (ผู้เรียบเรียง) ขอเริ่มต้นบรรยายด้วยพระนามของอัลลอฮ (ซ.บ.) ผู้ทรงไว้ลักษณะอันสูงเด่นโดยขอประทานความเป็นศิริมงคลอย่างมากมาย เหนือสิ่งที่เคยได้ประทานมาก่อน
3. ข้าพระองค์ขอความสรรเสริญด้วยวาจาที่ไม่รู้จักเหนื่อยหน่ายตลอดไป
4. โดยข้าพระองค์ขอถวายการขอบคุณที่สวยงามและน้อมจิตใจไว้กับพระองค์ตลอดไป
5. ข้าพระองค์ขอถวายความคารวะและสันติแด่ดวงรัศมีที่ทรงลักษณะเพียบพร้อมเหนือกว่ามนุษย์ทั้งปวงที่มีมาแต่ก่อน
6. ท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ผู้ถูกเปลี่ยนมาจากรัศมีมาปรากฏอยู่ที่ใบหน้าและหน้าผากของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ)
7. ข้าพระองค์ขอต่ออัลลอฮ (ซ.บ.) ได้โปรดประทานความยินยอมยินดีปรีดาเฉพาะครอบครัวของท่านนบีที่สะอาดจากชิริกและความชั่ว
8. ขอให้การยินยอมยินและความยินดีปรีดา คุมถึงบรรดาเหล่าสาวก และผู้เจริญรอยตามนบี ตลอดจนผู้ที่ให้เกรียติและรักใคร่
9. ข้าพระองค์ใคร่ขอได้โปรดประทานแสงสว่างทางนำไปสู่วิถีทางที่ถูกต้องตามบัญญัติแห่งอัลลอฮ (ซ.บ.)
10. และขอพระองค์จงปกปักรักษา คุ้มครองท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ให้พ้นจากกิเลสอันชั่วร้ายในการผิดประเวณี และขอจงปกป้องที่จะย่างเท้าเข้าไปในสถานที่ผิดบัญญัติของอัลลอฮ (ซ.บ.)
11. ข้าพระองค์ขอเริ่มต้นบรรยายชีวประวัติของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) โดยเริ่มต้นจากวงศ์ต้นจากวงศ์ตระกูลของท่านนบีเสมือนผ้าที่มีหลากหลายสี
12. ทั้งนี้เพื่อเป็นการสดุดีและเทิดพระเกียรติวงศ์ตระกูลของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) เพื่อมุ่งหวังที่จะให้ผู้ยินดีได้ฟัง ซาบซึ้งในชีวประวัตินบี ที่งดงามเสมือนล็อกเก็ตประดับเพชร
13. ด้วยบารมีแห่งอัลลอฮ (ซ.บ.) ข้าขอช่วยเหลือพลังที่แรงกล้าแห่งอัลลอฮ (ซ.บ.)
14. แท้จริงข้าพระองค์ไม่อาจประกอบความดีและความชั่วได้สำเร็จ นอกจากได้รับความกรุณาจากพระองค์อัลลอฮ (ซ.บ.)

(ขอพระองค์ทรงโปรดปรานแก่สุสานอันประเสริฐของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ด้วยกลิ่นหอมไม้จันทน์จากคุณงามความดีและความเมตตาปราณีเสมอ)
...

2. Junjonglah tuan (هلغوجنوج ( توان
มาสรรเสริญเถิดเพื่อนพ้องถึงผู้นำของพวกเรา ทุก ๆที่ พี่น้องเราทุกคนร่วมใจกัน
บนโลกดุนยานี้เป็นที่ประจักรชัดแจ้ง เขาผู้ซึ่งเป็นนบี ผู้นำของพวกเรา
เป็นศาสนทูตของอัลลอฮบนหน้าแผ่นดินนี้ มาเชิญชวนมวลมนุษย์สู่ศาสนาอิสลาม
มาพร้อมกับคำภีร์อัลกุรอ่าน ที่ทุกคนต้องเชื่อไม่ว่าหญิงหรือชาย

ศาสนทูตของอัลลอฮมีนามว่า มูฮัมหมัด เป็นบุตรของอับดุลลอฮ(บุตรของอับดุลมุตฏอลิบ)เป็นที่รู้กัน
เป็นศาสนทูตคนสุดท้ายจนกระทั่งถึงวันกียามัต และเป็นศาสนทูตที่มีประชาชาติมากที่สุด
อับดุลมุตฏอลิบเป็นลูกของฮาเซ็ม วงศ์ตระกูลสืบเชื้อสายมาจากนบีอิบรอฮีม
เมืองมักกะฮเป็นที่ประสูติของนบี และมาดีนะห์เป็นแหล่งที่พักพิง

มารดาชื่อ อามีนะห์เป็นลูกของ วาฮับ บรรดาผู้รู้มีความเห็นตรงกันว่า
ในคืนวันศุกร์ของเดือนระอฺญับ คือช่วงเวลาที่ประเสริฐยิ่ง
เป็นคืนที่มารดาท่านนบีได้ตั้งครรภ์ ด้วยการอนุมัติจากพระผู้เป็นเจ้า
คืนนั้นแหละเป็นคืนแรกที่มีท่าน ด้วยพระประสงค์ของอัลลอฮ(ซุบฮ ฯ)

ค่ำคืนนั้นท้องฟ้าได้เปล่งเสียง จากฟากฟ้าเบื้องบนได้ยินถึงแผ่นดินเบื้องล่าง
อามีนะห์ก็ได้ยินเสียงเหล่านั้น คือเสียงที่มีความไพเราะ เพราะพริ้งมาก
ดวงวิญญาณที่มีรัศมี ถูกเก็บไว้ในที่มีเกียรติ เป็นของมูฮัมหมัด อาลัยฮิสสาลาม
ได้เข้าไปอยู่ในครรภ์ของอามีนะห์แล้วในค่ำคืนนี้ ด้วยพระปรีชาญานของอัลลอฮฺ ผู้เป็นพระเจ้าของทุกสรรพสิ่งในจักรวาล

อีกไม่นาน จะบังเกิดแก่มนุษยชาติ จะนำมาซึ่งความปีติยินดีอย่างล้นหลาม
ในค่ำคืนที่อามีนะห์ตั้งครรภ์ ประตูสวรรค์ถูกเปิดออก เหล่าสตรีที่เลอโฉมในสวรรค์ต่างพากันดีใจ
และยังมีรัศมีที่เจิดจรัสและสว่างไสว จากการเกิดขึ้นของนบีผู้นี้ที่ถูกยกย่องและนับถือ
ในค่ำคืนนี้เช่นกัน พระราชวังทั่วทั้งโลก ถล่มลงมา และเสียหายเมื่อตื่นนอนมาดูในรุ่งอรุณ

(ขอพระองค์ทรงโปรดปรานแก่สุสานอันประเสริฐของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ด้วยกลิ่นหอมไม้จันทน์จากคุณงามความดีและความเมตตาปราณีเสมอ)
...

3.ingin handak balik oleh Aminah (أيغين هندق باليق اوليه أمينة)
อามีนะห์มีความต้องการที่จะกลับบ้าน และคิดว่าจะจากเมืองนี้ไป
จึงจัดเตรียมเสบียงอาหาร เพื่อให้เพียงพอต่อการเดินทาง
อามีนะห์เริ่มที่จะเดินทางกลับ ไปยังมักกะห์ บ้านของอับดุลมุตฏอลิบ
คนในเผ่าต่างรู้สึกโศกเศร้า ในวันที่อามีนะห์จะจากไป

อามีนะห์ได้ขอโทษครอบครัว วันข้างหน้าคงได้พบกันในสวนสวรรค์
ทุกคนในเผ่ามาส่งอามีนะห์ พร้อมกับน้ำตาที่โศกเศร้ายิ่งนัก
แล้วอามีนะห์เริ่มเดินทาง เพื่อมุ่งสู่นครมักกะห์
พร้อม ๆ กับนบี โดยมอบหมายการเดินทางนี้ไว้กับอัลลอฮ

การเดินทางผ่านค่ำวันค่ำคืน ออกจากทะเลทรายหนึ่ง เข้าอีกทะเลทรายหนึ่ง
ระหว่างการเดินทางของอามีนะห์ ก็ได้หยุดพักเนื่องจากค่ำมืด
สถานที่ที่พักนี้ถูกเรียกว่า อับวาอฺ ในปัจจุบัน
อามีนะห์หยุดพักรับประทานอาหาร และพักผ่อน

และแล้วพระประสงค์ของพระเจ้าได้มาถึง อามีนะห์ก็ได้ล้มป่วยอย่างกะทันหัน
ความเจ็บป่วยเกิดขึ้นในตอนกลางคืน ตอนนี้อยู่ระหว่างการเดินทาง มีความยากลำบากยิ่งนัก
พระประสงค์ของอัลลอฮก็ได้เกิดขึ้นที่นั่น ในไม่ช้าอามีนะห์ ก็เสียชีวิต
สิ่งที่จะต้องทำต่อไป คือฝังอามีนะห์ไว้ใน อับวาอฺ

นบีก็คิดว่าตนนั้นคือกำพร้าทั้งบิดาและมารดา มารดาได้เสียชีวิตลงแล้วในระหว่างการเดินทางนี้
จึงฝากชีวิตไว้กับอัลลอฮผู้ทรงเป็นหนึ่ง พระประสงค์ของพระองค์นั้นถูกกำหนดเป็นที่แน่นอนแล้ว
ระยะทางกลับนี้ยังอีกไกล คำนวณดูต้องใช้เวลาประมาณ 5 วัน
โชคดีที่ตอนนั้นยังมี ทาสหนึ่งคนเชื้อสายฮับบาชี
ซึ่งเป็นมรดกของบิดา อับดุลลอฮ มีทาสนี้แหละที่ยังอยู่กับท่าน
ทาสคนนี้ได้พานบีกลับ ไปยังมักกะห์ ดินแดนฮาราม

อับดุลมุตฏอลิบตกใจอย่างมาก ที่นบีกลับมาคนเดียว(โดยไม่มีมารดา)
อับดุลมุตฏอลิบรู้สึกสงสารยิ่ง และหลั่งน้ำตาออกมา
นบีไม่มีพี่ไม่มีน้อง อับดุลมุตฏอลิบจึงมาเลี้ยงต่อ
นบีมีสติปัญญาที่เฉลียวฉลาดมาก รูปร่างหน้าตาหล่อเหลาและสง่า

นบีไม่เคยร้องเลยว่ากระหายหรือหิว ตั้งแต่เล็กจนกระทั่งโต
ท่านนบีมีความอดทนที่สูง นบีได้รับความช่วยเหลือจากอัลลอฮผู้ยิ่งใหญ่
อับดุลมุตฏอลิบรักท่านนบีมาก เนื่องจากนบีเป็นหลานแท้ ๆ ของท่าน
อับดุลมุตฏอลิบเลี้ยงดูนบีกลางวันและกลางคืน จนกระทั่งท่านนบีมีอายุประมาณ 8 ปี

(ขอพระองค์ทรงโปรดปรานแก่สุสานอันประเสริฐของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ด้วยกลิ่นหอมไม้จันทน์จากคุณงามความดีและความเมตตาปราณีเสมอ)
...

4.Adalah nabi Umur 8 tahun (أداله نبي عمور لافن تاهون)
เมื่อท่านนบีอายุได้ 8 ปี ท่านเป็นที่รักยิ่งของทุกๆคน
การเจ็บป่วยของปู่ถูกกำหนดขึ้นในปีนี้ ปู่ขอโทษที่ไม่สามารถดูแลนบีได้อีก
การเจ็บป่วยในครั้งนี้เปรียบเสมือนว่า ปู่จะต้องกลับไปยังโลกที่ถาวร
หลังจากนั้น ปู่ได้เรียกลูกชายชื่อ อาบูฏอลิบ เพื่อฝากดูแลหลานอันเป็นที่รักยิ่งต่อไป

อาบูฏอลิบเอ็นดูนบีมาตลอด มีศักดิ์เป็น ลุงของนบี
และเป็นคนที่ปู่ให้ความไว้วางใจที่สุด หลังจากนั้นก็ฝากนบี
การป่วยของปู่ทรุดหนักขึ้นทุกที ทุกคนในเผ่าก็พากันมาเยี่ยมเยียน
บรรดามิตรสหายก็พากันโศกเศร้า ไม่นานนักปู่ก็จากนบีไป

ท่านนบีครวญคิด ถึงตัวเอง สูญเสียมารดาในระหว่างเดินทางและมาเสียปู่อีก
เป็นการกำหนดจาก อัลลอฮไว้แล้ว แล้วลุงท่านก็รับมาเลี้ยงต่อ
ท่านนบีก็ได้รับการเลี้ยงดูจากอาบูฏอลิบ และลุงก็พานบีกลับไปยังบ้านของท่าน
นบีมีลูกๆของอาบูฏอลิบเป็นเพื่อนเล่น ทุกคนรักกันเหมือนเป็นพี่น้องกันจริง ๆ

(ขอพระองค์ทรงโปรดปรานแก่สุสานอันประเสริฐของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ด้วยกลิ่นหอมไม้จันทน์จากคุณงามความดีและความเมตตาปราณีเสมอ)
...

5.Walamma tamma min (ولم تم من حمله شهران)
1. เมื่อนางอามีนะห์ ตั้งครรภ์ท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ได้สองเดือนเต็ม ตามคำกล่าวของพวกมูฮัจดีซีน
2. ท่านอับดุลลอฮ บิดาของท่านนบี ได้เสียชีวิต ณ ที่นครมาดีนะห์ (เหตุที่ท่านอับดุลลอฮเสียชีวิตที่นครมาดีนะห์นั้น ท่านเดินทางไปซื้ออินทผาลัม และด่าบี๊บ บางรอวีย์กล่าวว่า ท่านได้ไปค้าขายกับพวกกุเรสที่ง๊อดดะห์) แท้จริงท่านอับดุลลอฮ ได้ไปอยู่กับพวกอาของอับดุลมุตฏอลิบเป็นชาวบานีอดีญิน จากพวกมีอาชีพเป็นช่างไม้
3. ท่านอับดุลลอฮ ได้พักอยู่กับอาของอับดุลมุตฏอลิบ 1 เดือน โดยป่วยอยู่ พวกอาได้เหน็ดเหนื่อย และวุ่นวายอยู่กับอับดุลลอฮ ด้วยความเป็นห่วงและคาดว่าการป่วยของอับดุลลอฮ อาจถึงกับเสียชีวิตได้ (เมื่ออับดุลมุตฏอลิบทราบอาการป่วยของอับดุลลอฮ จึงส่งลูกชายคนโตขึ้นไปที่มาดีนะห์ ปรากฏว่าอับดุลลอฮเสียชีวิตแล้ว ฝังอยู่ที่ดารุดตาบาบาอะห์หรือที่อับวาห์ (ชื่อตำบล) เมื่อข่าวการตายมาถึงอับดุลมุตฏอลิบท่านก็ร้องไห้ด้วยความเสียใจ
4. เมื่อนางอามีนะห์ ตั้งครรภ์ท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ได้ 9 เดือนจันทรคติ
5. เวลาก็ผ่านไปใกล้คลอดท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) เข้ามาทุกที ประชาชนที่รู้เรื่องอยากจะเห็นก็ยังไม่เห็น รอกันแล้วรอกันเล่า
6. เมื่อตอนเช้ามืดของวันจันทร์ ขึ้น 12 ค่ำ เดือนรอบีอุ้ลเอาว้าล ปีช้าง มีหญิง 2 คนคือ อาชียะห์ บุตรีของม่ดาฮีม และนางมัรยัม บุตรีของอิมรอน ได้ปรากฏตัวที่นางอามีนะห์พร้อมกับชาวสวรรค์ (โดยกล่าวว่าจงปลอดภัย ขณะนั้นอามีนะห์อยู่คนเดียว อับดุลมุตฏอลิบ ตอว๊าฟอยู่ที่บัยตุ้ลเลาะห์)
7. ทันใดนั้นเองนางอามีนะห์ ได้มีอาการเจ็บท้องจะคลอด (โดยมีอาการดิ้นของเด็กในครรภ์) ต่อมานางอามีนะห์ก็ได้คลอดท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) จากครรภ์ของนางโดยมีรัศมีส่องไปทั่วสารทิศ (ถือว่าเป็นรุ่งอรุณของอิสลาม ตั้งแต่ปีค.ศ. 517 ตามปฏิทินอาหรับ)

ซอลาวัต

6. Wamuhaiang (ومحياآا ألشمس منك مضئ)
8. ร่างกายท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ช่างงามเหลือ มีประกายแสงแห่งรัศมีจากท่านอันเจิดจ้า ประดุจดังประกายแสงจากดวงอาทิตย์ ด้วยรัศมีจากท่านส่องแสงสว่างไสวคืนนั้น
9. ณ คืนวันประสูติท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) มาเพื่อศาสนา คนทั่วไปต่างรู้สึกชื่นชมยินดีกับวันประสูติท่านนบีผู้มาเพิ่มความดี
10. ณ คืนนั้นบุตรีของท่านวาฮับ (นางอามีนะห์) ได้ประสบความภูมิใจอันยิ่งใหญ่จากการประสูติท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) จากครรภ์ของนาง ซึ่งสตรีอื่นไม่เคยมีโอกาสได้ประสบ
11. ในเวลานั้นนางอามีนะห์ ยังเป็นผู้นำมาสิ่งประเสริฐอันสูงสุดมาสู่มวลสตรีทั้งหลายยิ่งกว่านางมัรยัมในอดีต
12. การประสูติของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ในหมู่ผู้หลงผิดมีผลทำให้ดวงชะตาของพวกเขาเหล่านั้นประสบภัยพิบัติอันยิ่งใหญ่ และยังมีผลกระทบกระเทือนกับครอบครัวของท่าน
13. ข่าวการประสูติของท่านปรากฏเป็นข่าวแพร่สะพัดไปในหมู่ญินอย่างกว้างขวาง และสร้างความภาคภูมิใจให้กับมนุษย์ทั้งปวง (ทั้งนี้ก็เพราะท่านนบีทรงประสูติมาก็เพื่อให้ความโปรดปรานแก่โลก
14. ด้วยเหตุผลดังกล่าวอ้างทำให้นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้ทรงคุณธรรมในอดีตทั้งหลายต่างมีความคิดเห็นสอดคล้องกันว่า จะเป็นการประเสริฐอย่างยิ่งหากจะเทิดทูนเกียรติ และสดุดีท่านนบี ด้วยการยืนแสดงความคารวะขณะเมื่อกล่าวถึงชีวประวัติของท่านนบี ถึงคุณงามความดีต่างๆ
15. กุศลกรรมแห่งการประพฤติปฏิบัติย่อมสนองตอบผู้ซึ่งได้เทิดทูนเกียรติคุณของท่านนบีตามที่ทุกคนพึงปรารถนา

(ขอพระองค์ทรงโปรดปรานแก่สุสานอันประเสริฐของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ด้วยกลิ่นหอมไม้จันทน์จากคุณงามความดีและความเมตตาปราณีเสมอ)
...

7. Adalah nabi Umur 25 tahun (عمورن نبي دوافوله ليم تاهون)
เมื่อท่านนาบีอายุได้ 25 ปี เป็นที่รักยิ่งของทุกๆคน
ด้วยเหตุที่ท่านเป็นคนซื่อตรง เมื่อคนมาขอโทษ จะได้รับการให้อภัยในทันที
ทำให้คนทั่วไปขนานนามว่า ชื่อมูฮัมหมัด ผู้เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจ
มีผู้หญิงผู้เลอโฉมคนหนึ่ง ร่ำรวยมากอีกทั้งยังเป็นหม้าย

ชื่อว่าคอดีเญาะ เป็นบุตรสาวของ คูวัยเล็ด รูปร่างเป็นเลิศ สวยยิ่งนัก
คอดีเญาะเฝ้าดูการทำงานของท่านนาบี เกิดความรู้สึกชอบในท่านนาบีอย่างยิ่ง
หลังจากนั้น ได้ชวนท่านนาบีมาร่วมค้าขาย ทำให้ท่านนาบีต้องเดินทางไกลเป็นครั้งที่ 3
มุ่งตรงไปยังเมืองซามเพื่อทำการค้าขาย การค้าขายของท่านได้กำไรกลับมามากมาย

ทำให้คอดีเญาะชอบในท่านนาบีมากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นจึงได้ชวนท่านนาบีร่วมเข้าพิธีแต่งงาน
โดยผ่านการอนุญาตของ อาบูฏอลิบ (ลุง) การแต่งงานของท่านนาบีกับคอดีเญาะจึงเกิดขึ้น
ยิ่งทำให้ท่านหญิงคอดีเญาะได้สมหวัง รวมทั้งทำให้เพิ่มศิริมงคลและฐานะที่สูงส่งยิ่งขึ้น
นี่คือผู้หญิงที่แสนร่ำรวยในเมืองมักกะฮ ไม่มีคนอื่นใดนอกจาก ท่านหญิงคอดีเญาะ
หลังจากนั้น ท่านนาบีได้มีบุตรกับท่านหญิงคอดีเญาะทั้งหมด 6 คน เป็นบุรุษเพศ 2 คนและสตรีเพศ 4 คน
และท่านนาบีก็มีลูกกับภรรยาอื่นอีก 1 คน มีชื่อว่า อิบรอฮีม รวมเป็น 7 คน

(ขอพระองค์ทรงโปรดปรานแก่สุสานอันประเสริฐของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ด้วยกลิ่นหอมไม้จันทน์จากคุณงามความดีและความเมตตาปราณีเสมอ)
...

8.Wakana na rasul ( وآان صلى ألله عليه وسلم)
1. ท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ท่านทรงมีความละอายมาก และทรงอ่อนน้อมถ่อมตน ท่านทรงเย็บรองเท้าด้วยตนเอง ทรงปะเสื้อผ้าด้วยตนเอง ทรงรีดนมแพะด้วยตนเอง ทรงดำเนินงานและทำงานในครอบครัว ดำเนินไปอย่างเรียบร้อย
2. ทรงรักใคร่คนยากจนและขัดสน ทรงนั่งร่วมกับคนจนและขัดสนด้วย ทรงไปเยี่ยมเยียนคนจน คนขัดสน เมื่อเจ็บป่วย และทรงเดินตามศพเขาด้วยเมื่อถึงแก่ความตาย ท่านนบีไม่เคยดูถูกเหยียดหยามคนยากจน ซึ่งความจนและความเลวทรามประสบแก่เขาเหล่านั้น
3. ท่านนบีทรงรับการขออภัย และไม่ได้โต้เถียงกับคนหนึ่งคนใดด้วยสิ่งที่เขาไม่พอใจ ท่านนบีทรงเดินร่วมกับหญิงเป็นหม้าย และบ่าวไพร่ (เพื่อให้
ความอบอุ่นใจ)
4. ท่านนบีไม่เกรงกลัวบรรดากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ และทรงโกรธกริ้วเขา (เมื่อเขาเหล่านั้นไม่ยอมรับ) และปฏิบัติตามที่อัลลอฮยินยอมให้นบีสั่งสอน
5. ท่านนบีเดินข้างหลังซอฮาบะห์ของเขา และกล่าวว่า จงเว้นห่างว่างไว้หลังท่าน
6. เพื่อมาลาอีกะห์รูฮานียะห์
7. ท่านนบีเคยขี่อูฐ ม้า ล่อ และลาเป็นพาหนะ ซึ่งบางกษัตริย์ได้มอบให้แก่ท่าน
8. ท่านนบีเอาหินมาผูกที่ท้องท่านเมื่อเวลาหิวโหย แท้จริงมีผู้มอบคลังแผ่นดินท่านไม่ยอมรับ
9. และภูเขาต่าง ๆ ได้แสดงตนจะเป็นทองคำให้ท่านก็ปฏิเสธไม่ยอมรับ
10. ท่านนบีไม่พูดเหลวไหล และเริ่มให้สลามก่อนต่อผู้ที่ท่านพบเห็น
11. ท่านนบีทำละหมาดยาวนาน และอ่านคุตบะห์ในวันศุกร์สั้น ๆ
12. ท่านนบีคบค้าสมาคมกับพวกที่มีเกียรติสูง และให้เกียรติต่อผู้มีเกียรติ ท่านนบีพูดล้อเล่นและไม่พูดเว้นแต่เป็นความจริง อัลลอฮรักท่านและยินยอมให้ท่านนบี
13. ณ บัดนี้ ผู้เรียบเรียงขอจบคำกล่าวประวัติศาสดาที่ดำเนินมาพร้อมด้วยอรรถรสตั้งแต่ต้นจนจบ
14. ทั่วถึงเต็มเปี่ยมในการอธิบายในแง่ทุกมุมมิได้บกพร่องเลย จึงขอจบเพียงเท่านี้

(คำพูดของซัยยิด ยะฟัร)

(ขอพระองค์ทรงโปรดปรานแก่สุสานอันประเสริฐของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ด้วยกลิ่นหอมไม้จันทน์จากคุณงามความดีและความเมตตาปราณีเสมอ)
...


อ้างอิงจาก
หะยี สมาแอ พ่วงศิริ, 2532, บัรดันยี กะหล่ามน่าซารบุรดะฮฺ และความหมายภาษาไทย, สำนักพิมพ์ ส.วงศ์เสงี่ยม, กรุงเทพมหานคร
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: musalmarn Date: มี.ค. 28, 2008, 03:12 AM
ข้อความด้านบนสืบเนื่องจากกระทู้นี่

วัลลอฮ ฮุ อะอลัม
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: Muftee Date: มี.ค. 28, 2008, 04:47 AM
ขอบคุณมากครับ...ความรู้อีกแระ...
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: ILHAM Date: เม.ย. 05, 2008, 03:13 PM
อ้างจาก: [MusalmarN] ที่ มี.ค. 28, 2008, 03:12 AM
ข้อความด้านบนสืบเนื่องจากกระทู้นี่

วัลลอฮ ฮุ อะอลัม
นึกว่ามาจากกระทู้ไฟล์เสียงผมอีก แต่จะว่าไปแล้วในซางีก้มีท่อนนึงนะครับที่กล่าวว่า
Sangatlah ramai sepanjangnya jalan.
Inilah awal tarikh Al-Islam.
Pakaian elok memegang terpedang.
Dengan harmat berdiri sekalian.

คือจะตอบในกระทู้โน้นก็ไม่ได้เพราะเป็นกระทู้ถามตอบ เลยเอามาลงที่นี่ คงไม่นอกเรื่องเพราะเป็นซางีด้วย

เพื่อความเข้าใจตรงกัน บัรซัลญี บ้านผมเรียกว่า ซางี
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: musalmarn Date: เม.ย. 06, 2008, 12:27 AM
อ้างจาก: ILHAM ที่ เม.ย. 05, 2008, 03:13 PM


คือจะตอบในกระทู้โน้นก็ไม่ได้เพราะเป็นกระทู้ถามตอบ เลยเอามาลงที่นี่ คงไม่นอกเรื่องเพราะเป็นซางีด้วย

เพื่อความเข้าใจตรงกัน บัรซัลญี บ้านผมเรียกว่า ซางี

บ้านผมก็เรียก ซางี เหมือนกัน

เอ๊ะ... รือเสาะกับบ้านผมก็ไม่ใกล้ ไม่ไกลเนาะ


ถึงว่า...  ;D
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: ILHAM Date: เม.ย. 06, 2008, 01:48 AM
3จังหวัดนี่เรียกว่าซางีทั้งนั้นแหละพี่ แต่สตูลอยู่คนเดียวเรียกยาว
แล้วบ้านพี่อยู่ไหนหรือ รอบข้างที่ติดรือเสาะก็มี รามัน ศรีสาคร ยี่งอ ไม่ทราบว่าอยู่ไหนครับ
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: musalmarn Date: ต.ค. 25, 2008, 03:29 AM
อ้างจาก: ILHAM ที่ เม.ย. 06, 2008, 01:48 AM
3จังหวัดนี่เรียกว่าซางีทั้งนั้นแหละพี่ แต่สตูลอยู่คนเดียวเรียกยาว
แล้วบ้านพี่อยู่ไหนหรือ รอบข้างที่ติดรือเสาะก็มี รามัน ศรีสาคร ยี่งอ ไม่ทราบว่าอยู่ไหนครับ

ไม่ใช่กาบู ไม่ใช่กาเว ไม่ใช่ยีงอ


;D





สืบเนื่องจากกระทู้ เมาลิดแห่งประเทศไทย เลยดันกระทู้นี้ขึ้นมา เผื่อว่ามีใครบางคนอยากรู้ความหมายของบัรซัลญี
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: ILHAM Date: ต.ค. 25, 2008, 03:47 AM
^
^
^

งั้นก็ดันกระทู้นี้ขึ้นด้วยแล้วกัน
ลองอ่านซางีภาษานายูรูมีเล่นๆกัน
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: al-firdaus~* Date: มี.ค. 08, 2009, 05:59 PM
ทบทวนด้วยคนค่ะ myGreat:
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: al-toorab Date: มี.ค. 08, 2009, 06:18 PM
อ้างถึง

1. Al jannatu (ألجنة ونعيمها)
1. สวรรค์และความสุขในสวรรค์ เป็นโชควาสนาแด่ผู้กล้าซอลาวาด และสลาม และถวายศิริมงคล แด่ท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) (ด้วยพระนามของอัลลอฮผู้ทรงกรุณาปราณีเสมอ)
2. ข้าพระองค์ (ผู้เรียบเรียง) ขอเริ่มต้นบรรยายด้วยพระนามของอัลลอฮ (ซ.บ.) ผู้ทรงไว้ลักษณะอันสูงเด่นโดยขอประทานความเป็นศิริมงคลอย่างมากมาย เหนือสิ่งที่เคยได้ประทานมาก่อน
3. ข้าพระองค์ขอความสรรเสริญด้วยวาจาที่ไม่รู้จักเหนื่อยหน่ายตลอดไป
4. โดยข้าพระองค์ขอถวายการขอบคุณที่สวยงามและน้อมจิตใจไว้กับพระองค์ตลอดไป
5. ข้าพระองค์ขอถวายความคารวะและสันติแด่ดวงรัศมีที่ทรงลักษณะเพียบพร้อมเหนือกว่ามนุษย์ทั้งปวงที่มีมาแต่ก่อน
6. ท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ผู้ถูกเปลี่ยนมาจากรัศมีมาปรากฏอยู่ที่ใบหน้าและหน้าผากของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ)
7. ข้าพระองค์ขอต่ออัลลอฮ (ซ.บ.) ได้โปรดประทานความยินยอมยินดีปรีดาเฉพาะครอบครัวของท่านนบีที่สะอาดจากชิริกและความชั่ว
8. ขอให้การยินยอมยินและความยินดีปรีดา คุมถึงบรรดาเหล่าสาวก และผู้เจริญรอยตามนบี ตลอดจนผู้ที่ให้เกรียติและรักใคร่
9. ข้าพระองค์ใคร่ขอได้โปรดประทานแสงสว่างทางนำไปสู่วิถีทางที่ถูกต้องตามบัญญัติแห่งอัลลอฮ (ซ.บ.)
10. และขอพระองค์จงปกปักรักษา คุ้มครองท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ให้พ้นจากกิเลสอันชั่วร้ายในการผิดประเวณี และขอจงปกป้องที่จะย่างเท้าเข้าไปในสถานที่ผิดบัญญัติของอัลลอฮ (ซ.บ.)
11. ข้าพระองค์ขอเริ่มต้นบรรยายชีวประวัติของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) โดยเริ่มต้นจากวงศ์ต้นจากวงศ์ตระกูลของท่านนบีเสมือนผ้าที่มีหลากหลายสี
12. ทั้งนี้เพื่อเป็นการสดุดีและเทิดพระเกียรติวงศ์ตระกูลของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) เพื่อมุ่งหวังที่จะให้ผู้ยินดีได้ฟัง ซาบซึ้งในชีวประวัตินบี ที่งดงามเสมือนล็อกเก็ตประดับเพชร
13. ด้วยบารมีแห่งอัลลอฮ (ซ.บ.) ข้าขอช่วยเหลือพลังที่แรงกล้าแห่งอัลลอฮ (ซ.บ.)
14. แท้จริงข้าพระองค์ไม่อาจประกอบความดีและความชั่วได้สำเร็จ นอกจากได้รับความกรุณาจากพระองค์อัลลอฮ (ซ.บ.)

(ขอพระองค์ทรงโปรดปรานแก่สุสานอันประเสริฐของท่านศาสนฑูต(ศ็อลฯ) ด้วยกลิ่นหอมไม้จันทน์จากคุณงามความดีและความเมตตาปราณีเสมอ)
...


salam

น้ำตาไหลหลากรินดั่งเลือดนอง      
แก้มทั้งสองด้วยริ้วรอยใจสั่นไหว
ด้วยคิดถึงแคว้นเขตที่จากไกล        
ณ เมืองไทยด้วยใจภักดิ์รักชาติมี

………………………………………………
อันสวรรค์แลความสุขในสวรรค์      
มิปิดกั้นโชคลาภวาสนา
แด่ผู้ซึ่งประสาทพรองค์ศาสดา (ซ.ล.)
และสันติความจำเริญ ณ พระองค์ (ซ.ล.)

ข้าขอเริ่มด้วยพระนามอันสูงส่ง        
ด้วยนามองค์อัลเลาะห์ (ซ.บ.)เจ้าหากประสงค์
ข้าบ่าวน้อยขอศิริผู้เที่ยงตรง            
ด้วยมงคลมากมีทรงประทาน

ข้าพระองค์ขอสรรเสริญด้วยวาจา        
ด้วยศรัทธาน้อมดวงจิตใจประสาน
ขอถวายการขอบคุณด้วยกราบกราน        
ทั้งวิญญาณมั่นแด่องค์ (ซ.บ.) ทั้งชีวี

ข้าพระองค์ขอถวายใจคารวะ            
แด่องค์พระศาสดา (ซ.ล.) ดวงรัศมี
ด้วยลักษณะเหนือกว่ามนุษย์ทุกผู้มี        
นับจากที่ทรงกำเนิดแต่ก่อนกาล

เปล่งรัศมีเจิดจ้าส่องบรรเจิด            
ณ จุดเกิดคือใบหน้าด้วยกล่าวขาน
ทั้งหน้าผากสว่างเปิดเลิศประมาณ        
เหนือเปรียบปานสมองค์ศาสดา (ซ.ล.)

ข้าน้อมขอต่อพระองค์ (ซ.บ.)ทรงประทาน      
แด่วงศ์วานครอบครัวพ้นกล่าวหา
สะอาดจากตั้งภาคีอันชั่วช้า            
ด้วยปรีดายินยอมแลยินดี

ขอยินยอมยินดีและปรีดา            
แด่บรรดาสาวกด้วยสุขี
แลผู้ให้เกียรติท่านองค์นบี ( ซ.ล.)        
แลผู้ที่เจริญตามรักใคร่องค์ ( ซ.ล.)

ข้าพระองค์ใคร่ขอด้วยโปรดปราน        
ทรงประทานทางนำพึงประสงค์
ตามวิถีบทบัญญัติแห่งพระองค์ ( ซ.บ. )      
ด้วยถูกต้องมั่นคงนำศรัทธา

และขอองค์ ( ซ.บ. )ทรงปกปักและรักษา      
ดวงวิญญาพ้นผิดด้วยบาปหนา
ปิดกิเลสความอยากอันชั่วช้า            
ป้องปกองค์ (ซ.ล )ด้วยบัญญัติแห่งพระองค์ (ซ.บ.)

ข้าพระองค์ขอเริ่มเอ่ยชีวประวัติ        
มูฮัมมัดศาสดา ( ซ.ล. )ประเสริฐศรี
เริ่มจากวงศ์วานตระกูลท่านนบี ( ซ.ล. )      
ดั่งผ้าสีหลายหลากที่แพรพรรณ

ทั้งนี้เพื่อสดุดีแลเทิดเกียรติ            
ด้วยตั้งเหนียตให้รู้ซึ้งไม่แปรผัน
วงศ์ตระกูลของท่านศาสดา ( ซ.ล. )นั้น      
ซาบซึ้งกันดั่งล็อคเก็ตมากเพชรพลอย

ด้วยบารมีขอพระองค์ทรงช่วยเหลือ        
ด้วยช่วยเกื้ออำนาจมากใช้สอย
ข้ามิอาจสำเร็จในร่องรอย            
หากไม่คล้อยด้วยอำนาจแห่งพระองค์ (ซ.บ.)

ขอพระองค์ได้โปรดทรงประทาน        
ให้สุสานศาสดา (ซ.ล. )หากประสงค์
ด้วยกลิ่นหอมไม้จันทน์มีมั่นคง            
ไม่ปลดปลงความดีงามและปราณี

เศษดิน . . . ผู้ศรัทธา

สืบเนื่องจากกระทู้ ขอกลอนของ บัง บาซีร ไม่มีเวลาแต่งมาก ไว้จะเพิ่มให้นะครับบัง ถอดความ ตามแนวนิ zaifuddeen อ่ะ

hehe
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: al-firdaus~* Date: มี.ค. 08, 2009, 06:25 PM
salam

mycool:

ลงลิงค์ให้แล้วกัน  กลัวหากันไม่เจอ... :ameen:

http://www.sunnahstudent.com/forum/index.php?topic=4298.msg37500;topicseen#new
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: al-firdaus~* Date: มี.ค. 08, 2009, 06:34 PM
อ้างจาก: เศษดิน...ผู้ศรัทธา ที่ มี.ค. 08, 2009, 06:18 PM

สืบเนื่องจากกระทู้ ขอกลอนของ บัง บาซีร ไม่มีเวลาแต่งมาก ไว้จะเพิ่มให้นะครับบัง ถอดความ ตามแนวนิ zaifuddeen อ่ะ

hehe


ตรงไหนหว่า.... :Smile
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: Al Fatoni Date: มี.ค. 09, 2009, 09:56 AM
คำที่ถูกต้องคือ บัรซันญี ส่วนคำว่า ซางี ในภาษามลายูถิ่นนั้นเป็นคำเพี้ยนจากบัรซันญีอีกที - วัสสลาม
Re: ความหมาย 'บัรซัลญี' ฉบับแปลไทย By: musalmarn Date: มี.ค. 09, 2009, 03:08 PM
อ้างจาก: Al Fatoni ที่ มี.ค. 09, 2009, 09:56 AM
คำที่ถูกต้องคือ บัรซันญี ส่วนคำว่า ซางี ในภาษามลายูถิ่นนั้นเป็นคำเพี้ยนจากบัรซันญีอีกที - วัสสลาม

บัรซัลญี >>>แม่กน ^^
Re: ความหมาย 'บัรซันญี' ฉบับแปลไทย By: pluskit017 Date: ก.ค. 13, 2012, 03:25 PM
boulay:โอ้เย้  http://www.sunnahstudent.com/forum/archive.php?topic=2775.0
Profile
Profile
Admin

จำนวนข้อความ : 266
Join date : 25/07/2013

http://abcde555.blogspot.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ