เว็บบอร์ด
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.

ประวัติมัสยิดอัลอักซอ ณ.“บัยตุ้ลมักดิส

Go down

ประวัติมัสยิดอัลอักซอ ณ.“บัยตุ้ลมักดิส Empty ประวัติมัสยิดอัลอักซอ ณ.“บัยตุ้ลมักดิส

ตั้งหัวข้อ by Profile Sat Nov 15, 2014 5:19 pm

ประวัติมัสยิดอัลอักซอ ณ.“บัยตุ้ลมักดิส
**ชื่อภาษาอาหรับที่ใช้เรียกบริเวณเมืองเยรูซาเล็ม ตรงที่เป็นที่ตั้งของมัสยิดอัลอักซอ ซึ่งบางครั้งเรียกว่า “บัยตุ้ลมักดิส” ...หรือ “บัยตุ้ลมุก็อดดัส”
อัลกุดส์(ดินแดนปาเลสไตน์) มีความสำคัญสำหรับมุสลิมก็เพราะเป็นที่ตั้ง
ของมัสยิดอัลอักซอ มัสยิดที่นบีสุไลมาน(อะลัยฮิสลาม) สร้างขึ้นและถูกใช้เป็นกิบลัตแรก(ทิศที่มุสลิมหันหน้าไป เวลาละหมาด) แห่งแรกมาจนกระทั่งสมัยของท่านนบีมุฮัมหมัด(ศ้อลฯ) ก่อนที่จะมีบัญชาจากอัลลอฮให้เปลี่ยนมาเป็นกะอบะฮแทน นอกจากนี้แล้วมัสยิดอัลอักซอยังเป็นศาสนสถานสำคัญทางประวัติศาสตร์อิสลามอันเนื่องมาจากการที่มัสยิดแห่งนี้เป็นสถานที่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะซัลลัม ในการเดินทางของคืนหนึ่ง (อิสรออฺ) สู่บัยตุลมักดิส (เยรูซาเล็ม) ที่ที่ท่านได้เป็นผู้นำละหมาดแก่บรรดาท่านนบีคนอื่นๆ ที่มัสยิดอัลอักซอแห่งนี้ก่อนที่จะถูกนำตัวขึ้นสู่ฟากฟ้าเบื้องสูงในเหตุการณ์ที่เรียกกันว่า”อิสรออและมิอ์รอจญ์” อัลลอฮฺ(ซบ.)ได้กล่าวว่า “มหาบริสุทธิ์ผู้ทรงนำบ่าวของพระองค์ เดินทางในเวลากลางคืน จากมัสยิดอัลหะรอม ไปยังมัสยิดอัลอักซอ ซึ่งบริเวณรอบมัน เราได้ให้ความจำเริญ เพื่อเราจะให้เขาเห็นบางอย่าง จากสัญญาณต่างๆ ของเรา แท้จริงพระองค์ คือ ผู้ได้ยิน ผู้ทรงเห็น”ซูเราะฮฺ อัลอิสรออฺ 1” และเป็นหนึ่งในสามมัสยิด ที่ผู้คนเดินทางมา โดยมีเป้าหมายเพื่อการอิบาดะฮฺ (ต่ออัลลอฮฺ) ตามหะดีษที่รายงานโดย อิมาม บุคอรียฺและอิมามมุสลิม ซึ่งรายงานมาจาก อบู ซัรรฺ (รอดิยัลลอฮุ อันฮุ) โดยเขากล่าวว่า:ครั้งหนึ่ง ฉันได้ถามท่านนบีว่ามัสยิดอะไรเป็นมัสยิด แรกที่ถูกสร้างขึ้นบนโลก “มัสยิดที่ถูกสร้างขึ้นมา บนแผ่นดินเป็นแห่งแรกคือมัสยิด อัลหะรอม (ในมักกะฮฺ) หลังจากนั้น มัสญิดอัล-อักซอ ฉันถามต่อว่า มีระยะเวลาห่างเท่าไหร่ ระหว่างสองมัสยิดนี้? ท่านตอบว่า สี่สิบปี ดังนั้น ไม่ว่าเจ้าจะอยู่มัสยิดไหน (ระหว่างสองมัสยิดนี้) เมื่อเข้าเวลาละหมาด เจ้าจงละหมาด เพราะนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด ที่จะปฏิบัติ”
**เมื่ออัลกุดส์ตกอยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิมครั้งแรกในสมัยคอลีฟะห์อุมัร ประมาณปี ค.ศ. 638 คอลีฟะห์อุมัรได้ดำเนินนโยบายเปิดให้อัลกุดส์เป็นแผ่นดินสำหรับผู้ศรัทธาในพระเจ้าไม่ว่าจะเป็นคริสเตียนหรือมุสลิมให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยกำหนดให้ชาวคริสเตียนต้องจ่ายภาษียิซยะห์แก่รัฐบาลกลางเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับความคุ้มครองปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินและเสรีภาพในการนับถือศาสนา อัลกุดส์อยู่ภายใต้การปกครองของมุสลิมมาเป็นเวลานานนับร้อยปี จึงได้ถูกพวกคริสเตียนเข้ามายึดครองในสมัยสงครามครูเสด
**อัลกุดส์ยึดกลับคืนมาเป็นของมุสลิมอีกครั้งหนึ่งใน ค.ศ.1187 โดย ซอลาฮุดดีน อัลอัยยูบี แม่ทัพมุสลิมนามอุโฆษที่โลกตะวันตกรู้จักดีกันในนาม “ซาลาดิน” ซอลาฮุดดีนดำเนินนโยบายการปกครองอัลกุดส์เช่นเดียวกับคอลีฟะห์อุมัร แต่หลังจากนั้นประมาณ 50 ปี อัลกุดส์ก็ตกเป็นของฝ่ายคริสเตียนอีกและหลังจากนั้นไม่นานฝ่ายมุสลิมก็สามารถยึดคืนกลับมาได้ในสมัยของราชวงศ์มัมลู้ก แห่งอียิปต์
**หลัง ค.ศ. 1516 อัลกุดส์ตกอยู่ภายใต้การปกครองของอาณาจักอุสมานียะห์ หรือ ออตโตมานเติร์ก นับเป็นเวลาหลายร้อยปี เมื่อยุโรปมีความเจริญเข้มแข็งขึ้นในขณะที่อาณาจักรอุสมานียะห์เสื่อมอำนาจลงในปี ค.ศ.1881 ชาวยิวจากทั่วโลกก็เริ่มอพยพกันเข้าไปในอัลกุดส์มากขึ้นด้วยคำอ้างตามความเชื่อว่าแผ่นดินตรงนี้คือแผ่นดินที่พระเจ้าได้สัญญาไว้ให้แก่พวกตน
**หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 อัลกุดส์ตกเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินปาเลสไตน์ใต้อาณัติของอังกฤษและพวกยิวได้รับโอกาสให้อพยพเข้ามาอยู่ในดินแดนแห่งนี้มากขึ้นจนเกิดการต่อต้านจากชาวอาหรับที่อาศัยอยู่เดิมตลอดมา หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ใน ค.ศ. 1948 สหรัฐอเมริกา อังกฤษและรัสเซีย ได้สมยอมกันให้ชาวยิวตั้งรัฐอิสราเอลขึ้นในแผ่นดินปาเลสไตน์ซึ่งผนวกเอาอัลกุดส์เข้าไว้ในอิสราเอลด้วย และนับแต่นั้นเป็นต้นมา ขบวนการชาตินิยมชาวยิว หรือ ขบวนการไซออนิสต์ก็พยายามหาหนทางที่จะสถาปนาอัลกุดส์หรือเยรูซาเล็มให้เป็นเมืองหลวงของอิสราเอลโดยสมบูรณ์
ท่าน นบีดาวุด อะลัยฮิสลาม ได้เลือกเมืองเยรูซาเล็มตามคำบัญชาของอัลลอฮฺ ประมาณหนึ่งพันปีก่อนคริสตศักราช หลังจากนั้นลูกชายของเขาคือ ท่านนบี สุลัยมาน อะลัยอิสลาม ได้สร้างมัสญิดในเมืองเยรูซาเล็มตามวิวรณ์ที่ท่านได้รับจากอัลลอฮฺ ตะอาลา นับเป็นเวลาหลายศตวรรษที่บรรดานบีและศาสนทูตของอัลลอฮฺได้ใช้มัสญิดแห่งนี้ เพื่อการเคารพสักการะอัลลอฮฺ จนกระทั่งชาวบาบิโลน ได้เข้าทำลายในปี 586 ก่อนคริสตศักราช แต่ไม่นานมันก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูและคืนสู่การใช้เพื่อการเคารพสักการะอัล ลอฮฺในปี 516 ก่อนคริสตศักราช และ ถูกใช้ไปอย่างต่อเนื่องหลังจากนั้นอีกหลายศตวรรษจนกระทั่งถึงยุคของท่านนบี อีซา อะลัยฮิสลาม เมื่อท่านออกไปจากโลกนี้ พวกโรมันก็เข้ามา ทำลายเมืองแห่งนี้ในปีที่ 70 ของคริสต์ศักราช
**มัสยิดที่เป็นสถานที่ละหมาดหลักนั้นไม่ใช่โดมศิลาทอง(Dome of the rock )หรือมัสยิดอัลซอกห์เราะห์ (Al Sakhrah) แต่เพราะว่ารูปภาพของโดมนั้น มีอย่างแพร่หลาย มีมุสลิมจำนวนไม่น้อย คิดว่าเมื่อพวกเขาเห็นมันแล้ว นั่นก็เป็นมัสยิดอัลอักซอ นี่ไม่ใช่ความจริง มัสยิดนี้ ตั้งอยู่ตอนใต้ของเนิน ส่วนโดมศิลาถูกสร้างคลุมหินลอย (raised rock) ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางของที่ราบสูง***
Credit Marowee Tuanmaeroh           /////////////   มหัศจรรย์อัลกุรอ่าน
Profile
Profile
Admin

จำนวนข้อความ : 266
Join date : 25/07/2013

http://abcde555.blogspot.com/

ขึ้นไปข้างบน Go down

ขึ้นไปข้างบน


 
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ